"บีโปรดักส์" ผลิตภัณฑ์จาก "ผึ้ง" เน้นอาหารเสริมส่งขายต่างแดน

20/9/2008


ที่มา : หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551 / เรียบเรียงโดย วรัทยา ไชยลังกา

ผลิตภัณฑ์จากผึ้งได้รับความนิยมมานานอย่างยิ่งในหมู่คนรักสุขภาพ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการอันหลากหลาย และจากการศึกษาค้นคว้าวิจัย จึงพบคุณประโยชน์ที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในลักษณะอื่นๆ เพิ่มมูลค่ามากกว่าเป็นน้ำผึ้งธรรมดาที่วางขายตามท้องตลาด ดังนั้น บริษัท บีโปรดักส์ จำกัด ภายใต้การบริหารของ ศิริพร ตันติพงษ์ กรรมการบริษัท ซึ่งนำมาพัฒนาต่อยอดจนส่งขายต่างประเทศ สร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

ด้วยสามีคือ วีระพันธุ์ ตันติพงษ์ เป็นเภสัชกรซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประโยชน์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในผึ้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 กระทั่งตอบโจทย์ของตนเองได้สำเร็จ จึงมีแนวคิดนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมก่อตั้งบริษัทปี 2530 และจดทะเบียนเป็นโรงงานต้นแบบการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผึ้งเพื่อการส่งออก

ศิริพรบอกว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จะผลิตจากน้ำผึ้งเกสรดอกไม้ ดอกไม้ป่า ดอกลิ้นจี่ และดอกลำไย โดยให้สมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ 300 ราย และเกษตรกรที่เข้าร่วมในลักษณะลัสเตอร์ 30 รายโดยบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมขั้นตอนวิธีการเลี้ยง

"กว่า 20 ปีที่เราทำงานด้านนี้ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์จำหน่าย ทั้งรูปของน้ำผึ้งภายใต้ยี่ห้อบัวหลวง รอยัลเยลลี่ แบบอัดแห้ง แบบธรรมดา และนมผึ้งอัดเม็ด ยี่ห้อไลโอ-โรเยล ล่าสุดในรูปรอยัลเยลลี่ผสมกระชายดำอัดเม็ด ยี่ห้อลิเม็กซ์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติปี 2550" ศิริพรกล่าว

สำหรับตลาดมีทั้งในและต่างประเทศ โดยต่างประเทศส่งออกไปเยอรมนี 20% สหรัฐอเมริกา 20% เป็นสินค้าประเภทน้ำผึ้ง เกสรผึ้งและรอยัลเยลลี่เพื่อเป็นส่วนประกอบทำเครื่องสำอาง และ 10% ให้แก่สิงคโปร์เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป ส่วนอีก 50% เป็นตลาดในประเทศ ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์แปรรูปเป็นหลัก

ทั้งนี้ปี 2550 ผลิตน้ำผึ้งได้ 690 ตัน จำหน่ายราคาตันละ 8.5 หมื่น-1 แสนบาท ขณะที่รอยัลเยลลี่แบบธรรมดาและแบบแห้ง ผลิตได้ 6,000 กิโลกรัม ราคาจำหน่ายแบบธรรมดากิโลกรัมละ 1,500 บาท ส่วนแบบแห้งราคาจะเพิ่มขึ้นอีก 3-4 เท่าตัว

ศิริพรกล่าวว่า ในปีนี้จากที่ประเทศไทยประสบภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วภาคเหนือ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไม่สามารถส่งน้ำผึ้งได้ตามเป้าหมาย จากเดิมปริมาณน้ำผึ้งที่ปีนี้ตั้งไว้ 750 ตัน จึงเหลือเพียง 360 ตัน ซึ่งจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศที่มีออเดอร์เข้ามาล่วงหน้า

"แม้เราจะมีการแก้ไขไว้ล่วงหน้าโดยให้เกษตรกรเริ่มเลี้ยงก่อนกำหนด 1 เดือน และสต็อกสินค้าไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการจนทำให้ต้องยกเลิกออเดอร์และลดจำนวนการสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศหลายราย ปัญหาภัยแล้งไม่ได้เกิดเฉพาะในไทย คู่แข่งอย่างเวียดนาม จีน ก็ประสบเช่นกัน จึงทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง" นางศิริพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม แผนการตลาดปี 2551-2552 ศิริพรกล่าวว่าต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยหันมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปพร้อมมีแผนขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมไปถึงการค้นคว้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกสู่ท้องตลาดมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท




‹ Back




Certificate



© Copyright 2016 Bee Products Industry Co., Ltd. All Rights Reserved.

บริษัท บี โปรดักส์ อินดัสตรี้ จำกัด
สำนักงานเชียงใหม่ เลขที่ 164/98 ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
Tel. (053) 821247-8, Fax. (053) 274900, Email beeproducts063@gmail.com

ID line: bpimk001   Facebook: Beeproductsthai   Instagram: Beeproductsthai   We Chat Wechat: BPI-Shecow